หน้าที่และความรับผิดชอบของคนที่เป็นหัวหน้างาน ผู้จัดการ หรือผู้นำทีม ก็คือ การสร้างผลงานโดยผ่านพนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของตนเอง ลองพิจารณาคำพูดนี้อีกสักครั้งนะครับ “สร้างผลงานโดยผ่านพนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของตนเอง”แปลง่ายๆ ว่าคนที่เป็นหัวหน้างานนั้น ทำงานหรือสร้างผลงานโดยตัวคนเดียวแทบจะไม่ได้เลย หรือถ้าได้ก็คงต้องใช้เวลามากมาย ดังนั้นจึงต้องทำหน้าที่ในการบริหารคนภายในทีม เพื่อให้พนักงานในทีมงานของตนมีความยินดี และเต็มใจที่จะสร้างผลงานตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
นั่นก็แปลว่า ถ้าลูกน้องรู้สึกว่าหัวหน้างานของตนเองนั้นไม่น่าทำงานด้วยเลย ผลงานก็จะไม่ออก ไม่ว่าจะพยายามมากสักเท่าไหร่ในการวางแผนควบคุม และตรวจสอบกันตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่พนักงานไม่มีใจให้กับหัวหน้า ไม่มีใจให้กับงานแล้ว ผลงานก็ไม่ออกแน่นอน ซึ่งก็ส่งผลกับผลงานของหัวหน้าเช่นกัน ก็คือ ผลงานของหัวหน้างานเองก็ไม่ออกเช่นกัน
ดังนั้นบทบาทของการเป็นหัวหน้าที่ดี เพื่อที่จะทำให้พนักงานอยากสร้างผลงานให้เราก็คือ การใส่ใจ และเอาใจใส่ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องความสัมพันธ์ที่ดี ต้องไปด้วยกันทั้งคู่ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ทำอย่างไรให้พนักงานรู้สึกที่อยากจะทำงานให้เราอย่างเต็มใจ และพอใจ ไม่ใช่ทำไปอย่างฝืนๆ เพราะไม่มีทางเลือก
ผมอ่านเจอ Model หนึ่งของ Fred Kiel, Ph.D. & Doug Lennick ในหนังสือที่ชื่อว่า Moral Intelligence 2.0 ซึ่งเขียนเกี่ยวกับการสร้างขวัญและกำลังใจในการบริหารคน ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญของคนที่เป็นหัวหน้า และผู้นำเลยทีเดียว ผมเห็นว่าน่าสนใจก็เลยเอามาถ่ายทอดให้อ่านกันครับ โดย Model ของเขาเป็นอย่างในภาพข้างล่างนี้ครับ
เมื่อพิจารณาจาก Model ดังกล่าวจะเห็นว่าเขาแบ่งวิธีการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานออกเป็น 2 ด้านใหญ่ ก็คือ Head และ Heart ดังนี้
- HEADหัวหน้าจะต้องใช้ความคิดที่ถูกที่ควร โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้านย่อย คือ
- Integrityซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
- ทำอย่างที่พูด พูดอย่างที่ทำ
- พูด และสื่อความแต่ความจริง ไม่โกหกพนักงาน
- ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
- สัญญาอะไรแล้ว ทำตามที่สัญญาไว้ ไม่ผิดสัญญากับพนักงาน
- Integrityซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
ซึ่งผลลัพธ์ของการมี Integrity ก็คือ Trust พนักงานจะเกิดความเชื่อถือในตัวหัวหน้างานนั่นเองครับ
- Responsibilityซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
- แสดงความรับผิดชอบต่องานที่ตนเองได้รับหมอบหมายอย่างเต็มที่ ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการทำงานของตนเอง
- ไม่โยนความผิดพลาด และความล้มเหลวให้กับคนอื่น หรือเข้าข่ายที่ว่า “รับแต่ชอบไม่เคยรับผิด”
- สนับสนุน และช่วยเหลือลูกน้องของตนเองเพื่อให้งานได้ตามเป้าหมาย
ซึ่งผลลัพธ์ของการมี Responsibility ข้างต้น ก็คือ Inspiration พนักงานจะเกิดพลังและแรงบันดาลใจในการทำงาน เพราะนายไม่ทิ้งงาน แถมยังให้การช่วยเหลือเสมอ เพื่อให้ตนเองทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
- HEARTหัวหน้าจะต้องใช้หัวใจอย่างเหมาะสม โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้านย่อย คือ
- Forgivenessซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
- ให้อภัยผู้อื่นได้เสมอ ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงาน
- ไม่เก็บเอาความผิดพลาดของคนอื่นไว้ในใจ แบบฝังใจจำ
- ใครที่ทำงานผิดพลาด ก็ให้โอกาสแก้ไขใหม่
- Forgivenessซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
ผลลัพธ์ของการมี Forgiveness นั้นก็คือ Innovation พนักงานจะไม่รู้สึกถึงการย้ำคิดย้ำทำของนาย และจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดความคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะคิดผิด ก็คิดใหม่ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้นนั่นเองครับ
- Compassionซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมดังนี้
- ให้ความใส่ใจ สนใจ ในตัวลูกน้องของตนเอง
- เอาใจใส่ สอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบของพนักงานอยู่เสมอ
- ให้ความจริงใจต่อพนักงานแต่ละคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
ผลลัพธ์ของการมี Compassion ก็คือ Retention พนักงานจะรู้สึกถึงความเอาใจใส่ของนาย ถือเป็นวิธีการรักษาพนักงานให้อยู่ทำงานกับบริษัทไว้ได้อย่างดี
นี่ก็คือความเอาใจใส่ที่หัวหน้าทุกคนควรจะนำไปใช้กับลูกน้องของตนเอง เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในทีมงานของตนเอง โดยเฉพาะถ้าเราต้องการให้พนักงานสร้างผลงานที่ดีขึ้น หัวหน้ายิ่งต้องเอาใจใส่พนักงานมากขึ้น คงไม่มีลูกน้องคนไหนที่ยอมทำงานอย่างเต็มใจและพอใจ ให้กับหัวหน้าที่ไม่สนใจในตัวเขาเลยสักนิด